พระอินทร์ เป็นเทพที่รู้จักกันดีในบ้านเรา เพราะมีความเกี่ยวข้องกับมนุษยโลก ท่านจะลงมาโปรดมนุษย์อยู่เนืองๆ เป็นที่ทราบกันว่า ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นที่ 2 ของฉกามาพจร หรือสวรรค์ 6 ชั้น ชื่อ ดาวดึงษา หรือ ไตรตรึงษา แปลว่า สามสิบสาม หมายถึงหมู่เทพที่ชาติก่อนเป็นเพื่อนร่วมทำบุญด้วยกันมา 33 องค์ ประทับนั่งอยู่บนเศียรช้างเอราวัณ 33 เศียร มี พระอินทร์เป็นประธาน บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้ จะมีสิ่งประหลาดมหัศจรรย์มากมาย เช่น แท่นบัณฑุกัมพล ที่ปกติจะอ่อนนั่งจมลึกถึงสะดือ แต่หากมีคนดีเดือดร้อน ก็จะ “แข็งดั่งศิลาประหลาดใจ” ทำให้พระอินทร์ต้องลงมาช่วย นอกจากนี้ยังมีต้นปาริชาต ที่ใครได้กลิ่นก็จะระลึกชาติได้ มหาเจดีย์จุฬามณี ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วและเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ฯลฯ และเหตุที่เขียนเรื่อง ทำไมพระอินทร์มีร่างกายผิวพรรณเป็นสีเขียว ในฉบับนี้นั้น ก็เนื่องจากมีผู้อยากรู้ถามเข้ามามากและยังไม่ได้ลองตั้งใจตอบจริงๆ จังๆ สักที อาจเป็นเพราะตัวเองก็ยังงงๆ อยู่ว่า เวลานึกถึงเทพองค์อื่นก็จะไม่มีสีสันวรรณะพิเศษอย่างเช่นพระอินทร์เลย
“พระอินทร์” เป็นเทพชั้นสูงมาตั้งแต่ก่อนยุคพระเวทในอินเดีย หรืออาจกล่าวได้ว่าช่วงอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุของชาวดราวิเดียนหรือพวกมิลักขะที่พ่ายแพ้ให้กับอารยัน ก็มีการนับถือพระอินทร์กันมาแล้ว ยิ่งยุคพระเวทต้นๆ พวกพราหมณ์นับถือว่าพระองค์เป็นเทพสูงสุดก่อนจะหันมานับถือ เทพตรีมูรติ ได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ และพระอิศวร เสียอีก
เรื่องที่พากันนับถือ “พระอินทร์” เป็นการใหญ่นั้นก็เพราะว่า ท่านเป็นเทพเจ้าประจำธรรมชาติ บรรดาผู้คนสมัยโบราณเขาจะเริ่มต้นนับถืออำนาจของธรรมชาติ หรืออำนาจที่เกี่ยวกับธรรมชาติก่อนอย่างอื่น อาทิ ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า อะไรทำนองนั้น ดังนั้น เทพในระยะแรกๆ ก็จะผูกพันอยู่กับธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น พระวรุณหรือพระพิรุณ ได้แก่เทพแห่งสายฝน พระอัคนี ได้แก่เพลิงหรือไฟ พระพาย หรือ วายุเทพ ซึ่งก็คือลม หรือนับถือสุริยเทพหรือพระอาทิตย์ เป็นต้น สำหรับ “พระอินทร์” จะได้รับการยกย่องเป็นเทพอันดับหนึ่ง เนื่องจากพระองค์มีอาวุธเป็น “วชิระ” (แผลงเป็น พชร หรือ เพชร ในตำรานพรัตน์โบราณกล่าวว่า เป็นแก้ววิเชียรมีน้ำใสงดงามทอประกายสะท้อนแสง เราจึงเรียกวัตถุที่สะท้อนแสงใสงดงามว่า “เพชร” ด้วย) ซึ่งวชิราวุธขององค์อินทร์จะมีอิทธิปาฏิหาริย์มาก ขว้างไปเมื่อใดก็จะก่อให้เกิดฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ขยับในหัตถ์ก็เกิดฟ้าแลบ และทำให้ฝนฟ้าตก เมื่อฝนตกพืชพันธุ์ธัญญาหารก็อุบัติเจริญงอกงามมีสีเขียวชอุ่มปกคลุมผืนโลกไปทั่ว จะว่าไปแล้ว ช่วงนี้ประเทศไทยเราค่อนข้างแล้ง ก็น่าบูชาพระอินทร์อยู่เหมือนกัน
บางคนก็อาจสงสัยว่า อ้าว! แล้วทำไมไม่ให้ “พระพิรุณ” ซึ่งเป็นเทพแห่งฝนโดยตรงมีสีเขียว อันนี้ก็เพราะว่า พระอินทร์ท่านเป็นเทพสูงสุด จึงนำท่านมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงามของต้นไม้ใบหญ้า เลยใส่สีเขียวให้เป็นจุดสังเกตแห่งความเป็นเทพประจำธรรมชาติ สีเขียวของวรกายท่านนั้นจะเรียกว่า “อินทนิล” คือบวกดำเข้าไปด้วย เหตุเพราะท่านไม่ใช่เทพของพราหมณ์เท่านั้น แต่พวกดราวิเดียนที่มีร่างสีดำนับถือมาก่อน ต่อมาภายหลังพระอินทร์ก็ลดบทบาทลงมาเป็นเทพเล็กๆ ฐานะเป็นรองตรีมูรติ บางยุคลดขั้นลงเป็นแค่หนึ่งในท้าวจตุโลกบาล ซึ่งเคยถึงกับหนียักษ์แปลงร่างเป็นนกยูง “นกยูง” เลยมีสีเขียวเข้มและมีตาบนแพนหางตามพระอินทร์ ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสหัสนัยน์หรือผู้มีพันตา และพระอินทร์ก็จะพัวพันกับสีเขียวมาเรื่อยๆ เช่น เป็นผู้ให้ท้าววิษณุกรรมสร้างพระแก้วมรกต จนเรียกกันว่า “รัตนโก สินทร์” ซึ่ง “รัตน” แปลว่า แก้ว “โกสินทร์” ก็คือ โกสีย์ หมายถึง พระอินทร์
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXhOVEU1TURZMU13PT0%3D
Leave a Reply