พระพุทธรูปนับว่าเป็นสัญลักษณ์ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งจัดเป็นปูชนียวัตถุสูงสุด ที่ผู้นับถือศาสนาพุทธได้เคารพกราบไหว้กันมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ การสร้างพระพุทธรูปนั้นเป็นธรรมเนียนที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ด้วยใจที่มุ่งหมายต้องการเพื่อให้มีรูปเสมือนเป็นตัวแทนแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เารพสักการบูชา
ผู้ที่ได้สร้างพระพุทธรูป อานิสงส์ที่จะได้รับมีดังนี้
๑. จะได้บุญตั้งแต่วินาทีแรกที่คิดจะทำการสร้าง อันประกอบไปด้วยความศรัทธาในพระพุทธองค์ ซึ่งจัดว่าเป็ตถาคตแห่งโพธิศรัทธา
๒. เมื่อได้บริจาคทรัพย์ในการสร้าง ก็จัดเป็นทานบารมี
๓. เมื่อได้ขวนขวายติดตามการสร้างองค์พระปฏิมาตลอดงานจนแล้วเสร็จ จัดเป็นกุศลเวยยาวัจจมัย
๔. เมื่อองค์พระปฏิมาสำเร็จโดยบริบูรณ์ได้เป็นที่ตั้งปห่งความตามอนุสรณ์ถึงพระพุทธคุณทั้งตัวเองด้วย ทั้งผู้อื่นด้วย กุศลจะเกิดเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้อาศัยพระปฏิมา
๕. อำนาจแห่งกุศลที่ได้สร้างองค์พระปฏิมาส่งผลให้เกิดเป็นคนรูปงาม มีบุคลิกสง่างาม เป็นที่รักของประชาชนและอิสริยายศ บริวาร ทรัพย์สมบัติ ตลอดจนความสุขสถาพร ไม่เป็นคนวิกลวิกาล
๖. ปิดอบายภูมิและส่งให้ปฏิสนธิในสุคตภูมิทันที ในสมัยกาลมรณะแล้ว หากมีอารมณ์ในกุศลกิจนั้นมาปรากฏให้จิตยึดก่อนจะจุติ
๗. เป็นการส่งเสริมพระพุทธศิลปะให้เจริญแพร่หลายพุทธศิลปะนั้นในชนที่มีความเจริญทางสติปัญญา เขายกย่องว่าเป็นศิลปะอันสุขุมประณีตละเอียดอ่อน เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติธรรมและปัญญาธรรมบริสุทธิ์
และนอกจากนี้ยังเชื่อกันอีกว่า หากได้ทำการสร้างพระพุทธรูปถวายวัดด้วยศรัทธาอันแรงกล้า และเต็มใจที่จะสละทรัพย์สมบัติส่วนเพื่อสร้างพระพุทธรูปให้ผู้คนได้ใช้ประโยชนืร่วมกันในการสักการะกราบไหว้ ก็จะเกิดอนิสงส์กับตัวผู้สร้างเองทำให้หลุดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บและภยันตรายต่างๆ ประสบความสำเร็จในชีวิต จะพร้อมบริบูรณ์ไปด้วยบริวารและทรัพย์สินเงินทอง เมื่อได้สิ้นสูญบุญในชาตินี้ ในชาติหน้าก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์ที่พรั่งพร้อมไปด้วยทัพย์สมบัติ
ข้อมูลจาก http://dehappen.com
Leave a Reply